ค่าเงินบาทกับราคาทองคำ ทำไมถึงมีผลต่อราคาทองรูปพรรณ?
ราคาทองคำเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญของเศรษฐกิจ และเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนมักใช้ป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมค่าเงินบาทถึงมีผลต่อราคาทองรูปพรรณในประเทศไทย บทความนี้จะอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงินบาทกับราคาทอง และปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินมีบทบาทสำคัญต่อราคาทองในตลาด
1. ค่าเงินบาทมีผลต่อราคาทองอย่างไร?
เนื่องจากราคาทองในไทยต้องถูกแปลงจาก ดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินบาท ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทจึงส่งผลโดยตรงต่อราคาทองรูปพรรณในประเทศไทย
เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่า ราคาทองรูปพรรณในไทยมีแนวโน้มลดลง
เมื่อค่าเงินบาทอ่อนค่า ราคาทองรูปพรรณในไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น
ดังนั้น หากค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ราคาทองคำที่ขายในไทยก็จะแพงขึ้น และในทางกลับกัน หากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ราคาทองคำก็จะถูกลง
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทและราคาทอง
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาทองคำและราคาทองรูปพรรณไปด้วย ได้แก่
1) นโยบายการเงินของธนาคารกลาง
- หาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ค่าเงินบาทมักแข็งค่าขึ้น ทำให้ราคาทองคำในไทยลดลง
- หาก ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น กดดันราคาทองในตลาดโลกให้ลดลง
2) อัตราเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจโลก
- เมื่อเงินเฟ้อสูง นักลงทุนมักจะหันมาถือทองคำแทนเงินสด ทำให้ราคาทองเพิ่มขึ้น
- หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ราคาทองมักจะพุ่งสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนและผู้คนมักจะซื้อไว้แทนการถือเงินสด
3) ความไม่แน่นอนทางการเมืองและสงคราม
เหตุการณ์ความไม่สงบ เช่น สงคราม ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ หรือวิกฤติการเงิน มักทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ ส่งผลให้ราคาทองในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น และราคาทองรูปพรรณในไทยก็จะปรับตัวขึ้นตาม
4) ปริมาณการซื้อขายทองในประเทศ
- หากมีความต้องการซื้อทองรูปพรรณสูง เช่น ในช่วงเทศกาลแต่งงาน หรือช่วงที่ราคาทองปรับลดลง อาจทำให้ราคาทองรูปพรรณสูงขึ้นชั่วคราว
- หากมีแรงขายทองจำนวนมาก เช่น ในช่วงที่ราคาทองพุ่งสูงเกินไป ราคาทองอาจปรับตัวลงเล็กน้อยตามกลไกตลาด
หากต้องการติดตามราคาทองคำสามารถติดตามได้จาก สมาคมค้าทองคำ หรืออัปเดตราคาทองได้ง่าย ๆ พร้อมเลือกดูทองรูปพรรณที่ https://ykt.co.th/